Recent Posts

สิ้นแล้ว ..... 'เกรซ กาญเกล้า' จมน้ำเสียชีวิต ในกองถ่ายช่อง7 แพทย์ยื้อกว่า 4 ชม. มือดีในกองเผ (R I P ):(:(

8:48 PM 1 Comment
  สิ้นแล้ว ..... 'เกรซ กาญเกล้า' จมน้ำเสียชีวิต ในกองถ่ายช่อง7 แพทย์ยื้อกว่า 4 ชม. มือดีในกองเผ (R I P ):(:(

เป็นที่หน้าสลดใจกันเหุการที่เกิดขึ้นกับนักแสดงสาวชอง7สี เกรซ กาญเกล้า เป็นอุบัติติเหตุที่เกิดขึ้นในกองถ่ายเมื่อเช้านี้ เป็นฉากที่นักแสดงสาวต้องตกจากเรือที่แม่น้ำท่าจีนผู้กำกับละครเผยใส้เสื้อชูชีพให้อย่างปลอดภัยแล้วและส่วนตัวของน้อง”เกรช”ก็ว่ายน้ำเป็นแต่กระแสน้ำที่พัดแรงทำให้เกิดเสื้อชู้ชีพหลุดและประกอบกับกระแสน้ำที่เชียวมาก ทีมงานสตั้นได้ลงไปช่วยกว่า 15 คนแต่กระแสน้ำแรง........




เอาแล้วซิ !! กำลังออกรางวัลที่ 1 มีคนเห็นมีอะไรบ้างอย่าง อยู่ในลูกบอล ซวยแล้วเนี้ย !?

เอาแล้วซิ !! กำลังออกรางวัลที่ 1 มีคนเห็นมีอะไรบ้างอย่าง อยู่ในลูกบอล ซวยแล้วเนี้ย !?

5:54 PM Add Comment
กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ขนาดที่กองฉลากกำลังออกเลขรางวัลที่1 ล่าสุดได้มีลูกบอลแต่อยู่ในที่จับรางวัลอย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป @Chuaepan Jadsadaporn_[‪#‎ได้พูดว่า‬]: มีใครเห็นอะไรบ้างครับ ในขณะกำลังออกรางวัลที่ 1
549
ttt2ttt1ttt

ตะลึงทั้งบ้าน!! เผยเคล็ดลับรักษา "หูด-ตาปลา" กับวิธีง่ายๆเพียงแค่เดินเข้าครัว!! บอกเลยหายจริง ง่ายไม่ต้องทรมาน!!(ชมภาพ)

3:38 AM Add Comment

ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับห๔ด และ โรคตาปลาก่อน ซึ่ง หูด ( Wart ) เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนของร่างกาย เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดเอชพีวี (HPV)  เมื่อเชื้อไวรัสแทรกซึม เข้าสู่ใต้ชั้นเซลล์ผิวหนัง ก็จะเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นหูดงอกออกจากผิวหนังส่วนนอก ซึ่งหูดสามารถเกิดขึ้นบริเวณใดของร่างกายก็ได้
ส่วน โรคตาปลา  (Corn) คือ  การที่ผิวหนังด้านหนาและแข็งเนื่องจากแรงเสียดสีและแรงกด ตำแหน่งที่พบบ่อย ได้แก่ บริเวณฝ่าเท้าและนิ้วเท้า เนื่องจากการที่ใส่รองเท้าคบแน่นจนเกินไปและการที่ผิวหนังบริเวณเท้าแห้ง และขาดความชุ่มชื่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของตาปลาได้

 วิธีกำจัดหูด  วิธีที่ 1 กระเทียม + น้ำส้มสายชู


การกำจัดหูดด้วยกระเทียมถือเป็นวิธีธรรมชาติที่ดีที่สุดเเละง่ายมาก เพียงเเค่นำกระเทียมมาปอกเปลือกเเละหั่นเป็นเเว่น(ขนาดพอๆ กับหูดของคุณ) นำไปเเช่ในน้ำส้มสายชู โดยเทน้ำส้มสายชูให้ท่วม จากนั้นให้นำกระเทียมมาติดที่หูดเเละใช้พลาสเตอร์ติดเเผลปิดทับไว้ เเล้วทิ้งไว้ 1 คืน เช้าวันรุ่งขึ้นเราจะเห็นความเปลี่ยนเเปลงอย่างเเน่นอนค่ะ วิธีนี้สามารถทำได้ทุกวันจนกว่าหูดจะหาย ใช้เวลาไม่เกิน 2 - 3 สัปดาห์ หูดก็จะหายไปค่ะ
ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์
การใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาหูดตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับโรคผิวหนัง  แอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นน้ำส้มสายชูมีสารที่ช่วยในการทำลายเชื้อแบคทีเรีย ขั้นเเรกให้ทำความสะอาดผิวหนังก่อน จากนั้นจึงนำสำลีไปเเช่หรือชุบในน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ให้ชุ่มเเล้วจึงนำมาแปะทับในบริเวณที่เป็นหูดเเล้วสวมถุงเท้าทับทิ้งไว้ข้ามคืนทำเป็นประจำรับรองบอกลาหูดได้เเน่นอน
วิธีที่ 3 เปลือกกล้วย


เพียงเเค่ใช้เปลือกกล้วยด้านในมาถูบริเวณผิวหนังที่เป็นหูด เเล้วแปะทิ้งไว้โดยใช้ผ้าพันเเผลหรือพลาสเตอร์ติดทับไว้ตอนกลางคืนก่อนเข้านอนเเล้วมาล้างออกในตอนเช้า ทำซ้ำได้ทุกวัน จะช่วยให้หูดลอกออกมาเร็วขึ้น เเละไม่เกิน 1 สัปดาห์เห็นผลเเน่นอนค่ะ
ขอบคุณที่มาจาก : deedaily , kaijeaw

โอ้ !! พระเจ้าช่วย! ภัยธรรมชาติไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได (ช่วยกัน แชร์ ใหเ้เพือนได้เห็นครับ)(มีคลิป)

6:37 PM Add Comment
พระเจ้าช่วย! ภัยธรรมชาติไม่น่าเชื่อช่วยในการแชร์ตอนนี้!

ภัยธรรมชาติ
พระเจ้าช่วย! ภัยธรรมชาติไม่น่าเชื่อช่วยในการแชร์ตอนนี้!Top Amazing
Posted by Top Amazing on Thursday, March 10, 2016

อึ้งหนักมาก!! ที่สุดวิธี "ถ่าย" แบบหมดใส้ ไม่ตกค้าง ง่ายเพียงแค่นี้ แก้ท้องอืดชะงัก!!!

3:49 PM Add Comment
 
สุขภาพใกล้ตัวที่พวกเราลืมนึกถึงไปเลยอย่าง 'อุจจาระตกค้าง' รู้หรือไม่ว่า จริงๆแล้วมีอันตรายมากน้อยแค่ไหน และเพื่อสุขภาพของพวกเรา วันนี้เรามี 6 เทคนิคดีๆ อึให้ดีไม่มีตกค้าง หมดปัญหาท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา มาฝากทุกคนด้วย

สำหรับเทคนิค ทั้ง 6 ข้อในการ อึให้ดีไม่มีตกค้างมีดังนี้

1.อย่าอั้นอึตอนเช้า  ปกติร่างกายควรขับถ่ายในช่วง ตี5 -7โมงเช้า ถ้าเลยเวลานี้แล้วร่างกายอาจส่งสัญญาณมาอีกแต่ก็ผิดเวลาสะแล้ว

2.อึให้ตรงกับเวลาเดิม เหมือนเป็นการกำหนดเวลาให้กับลำไส้เล็กให้บีบไล่อึออกมาอย่างสม่ำเสมอเท่านี้ก็จะไม่เกิดการอึตกค้างอีกต่อไป

3.รอจังหวะขณะอึ ถ้าขณะเข้า ห้องน้ำและมีการถ่ายหนักอยู่ ห้ามเบ่งเด็ดขาด ลองสังเกตนะครับจะมีอาการปวดเป็นรอบๆ นั้นเป็นเพราะลำไส้เราบีบตัวเป็นคลื่นๆคล้ายกับงู ถ้าบีบมาตรงบริเวณอึก็จะปวด แต่ถ้าเราเบ่งตอนที่เราไม่ปวดจะเหมือนเป็นการ "แกล้งลำไส้" ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงดันขึ้นมาโดยใช่เหตุและมีของแถมมาด้วยก็คือ "ริดสีดวง" นั่นเอง
4.นวดลำไส้ ถ้าเป็นเด็กให้นวดรอบสะดือ และผู้ใหญ่ให้นวดตรงท้องด้านล่างซ้ายเลยสะดือไป โดยการนวดต้องนวดเบาๆ ไปมาแล้วทิ้งไว้สักพักก็จะรู้สึกปวดท้องอึขึ้นมา

5.เอามืดกดท้องด้านซ้ายล่างขณะถ่าย หรือ จะลุกขึ้นนั่งยองๆเอาหน้าขาเป็นตัวกดไล่อึออกมา อันที่จริงแล้วการอึที่ดีตามธรรมของคนนั้น คือ "การนั่งยองๆ" เพราะจะได้มีแรงกดจากหน้าขา การที่เรารับส้วมแบบนั่งจากฝรั่งมาใช้เป็นการผิดธรรมชาติของมนุษย์เพราะไม่ มีแรงเบ่งอึ เนื่องจากเรานั่งในท่าห้อยขา ทำให้คนเอเชียกลายเป็นริดสีดวงและท้องผูกเหมือนฝรั่งอีกด้วย

6.ลุกขึ้นเดินไปมา การทำเช่นนี้จะทำให้ลำไส้บีบตัวได้ดี สักพักลำไส้จะบีบเอาอึส่วนท้ายๆที่เหลืออกมา จะทำให้เรารู้สึกปวดเบ่งอีกที
"ถ้าคุณอึน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์แสดงว่า คุณ ท้อง ผูก! "
นอกจากการออกกำลังกายที่ช่วยในการขับถ่ายแล้วยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยในการล้างลำไส้ ก็คือ อาหาร มีดังนี้
1.มะขามเปียก

2.ลูกพรุนแห้ง
ให้รับประทานทั้งผล เพราะจะได้กากใยด้วย ไม่ต้องแยกกินแต่น้ำ ยกเว้นถ้าเป็นเด็กรับประทาน

3.แอบเปิ้ลเขียว
กินทั้งผลหรือปั่นทั้งกากก็ได้
4.ถั่วดำ 
จัดเป็นอาหารล้างพิษ

5.สับปะรดและมะละกอ
ซึ่งทั้ง2ชนิดนี้ต่างมีน้ำย่อยช่วยกัดกากคราบโปรตีนเก่าๆ ที่ถูกย่อยไม่หมดและจะมีสภาพติดเป็นอุจจาระยางเหนียวที่คล้ายกับ "จาระบี"

6.ให้เลี่ยงการดื่มน้ำเย็นในตอนเช้า
โดยตอนเช้าจะให้ดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น ซึ่งขณะที่เราตื่นมาท้องของเราจะว่าง และจะช่วยให้ลำไส้บีบตัว แล้วเราก็จะปวดอึขึ้นมานั่นเอง
 
Credited: siamupdate

loading...