ครูฝึกทหารใหม่รวม ๑๐ นาย ลงโทษพลทหารเกณฑ์ป.โท จนตาย! เผยทุกเหตุการณ์ ยิ่งกว่าหนังซาดิสซ์

8:15 PM
ครูฝึกทหารใหม่รวม ๑๐ นาย ลงโทษพลทหารเกณฑ์ป.โท จนตาย! เผยทุกเหตุการณ์ ยิ่งกว่าหนังซาดิสซ์
          ก่อนอื่น Boxza ต้องขอแสดงความเสียใจแก่ญาติๆ กับเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิตอันบริสุทธิ์ของทหารท่านนี้ด้วย สืบเนื่องจากกรณีการร้องเรียนทั้งน้ำตาจากบรรดาครอบครัวของ พลทหารวิเชียร เผือกสม ที่เสียชีวิตจากสาเหตุโดนทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง จากฝีมือ ฝีเท้า ของครูฝึกในกองร้อยกว่า 10 ชีวิต โดยสาเหตุระบุเพียงแค่ว่าเจ้าตัวแอบหลบหนีการฝึก! ซึ่งทั้งนี้ยังมีนายทหารระดับร้อยตรี ร้อยโทเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหลายนาย จนในที่สุดทางกองทัพต้นสังกัดต้องออกมายอมรับความผิด พร้อมออกหนังสือชี้แจง น้อมรับการชดใช้สินไหมกว่า 7 ล้านบาท
ครูฝึกทหารใหม่รวม ๑๐ นาย ลงโทษซ้อมทรมานพลทหารเกณฑ์ป.โท
จนเสียชีวิต กองทัพบกต้องชดเชยสินไหมทดแทนคดีแพ่งกว่า ๗ ล้านบาท
ข้อเท็จจริงตามเอกสารหนังสือรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริง
กองทัพภาคที่ ๔ ที่ กห ๐๔๔๘/๒๔๖๓ ฉบับลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ 
มีดังนี้
พลทหารวิเชียร เผือกสม ได้ลาสิขาบทมาเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔
และได้สมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ ๑/๕๔
เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ แต่ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ 
พลทหารวิเชียร เผือกสม กลับถูกครูฝึกทหารลงโทษรุมทำร้าย
อย่างโหดเหี้ยมทารุณจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุเพราะหลบหนี
จากหน่วยฝึก ๒ ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ 
และได้ตัวกลับมาในวันเดียวกัน ครั้งที่ ๒ เมื่อ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ 
ทางหน่วยฝึกได้ไปรับตัวกลับหน่วยเมื่อ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ ก่อนเที่ยง 
ร้อยตรีให้การว่าได้ตบหน้าพลทหารวิเชียรฯ ๒ ครั้ง 
เพื่อเตือนสติให้สำนึกที่หลบหนี ให้กินพริกสดจำนวน ๓-๔ เม็ด 
เพื่อทำโทษและให้กินข้าวเปล่าจำนวน ๑ จาน ประมาณ ๑๒.๔๐ น.
ได้สั่งให้พลทหารผู้ช่วยครูฝึก ๒ นาย นำพลทหารวิเชียรฯ 
ไปบริเวณหลังหน่วยฝึกหน้าห้องน้ำเพื่อปรับปรุงวินัย 
โดยให้ออกกำลังท่ากายบริหาร เช่น ท่ากระโดดกบ แองการู ท่ายุบสะโพก ฯลฯ 
โดยในครั้งแรกให้สวมใส่ชุดทหารใหม่และต่อมาให้ถอดเสื้อผ้าออก
คงเหลือกางเกงในเพียงตัวเดียว โดยมีร้อยตรีนั่งกำกับอยู่ด้วย 
จากนั้นได้พาไปพบร้อยโทผู้ฝึกที่หน้าหน่วยฝึก ร้อยโทผู้ฝึกได้มีการ
ว่ากล่าวพลทหารวิเชียรฯ และได้สั่งให้พาไปด้านหลังหน่วยฝึก
เพื่อปรับปรุงวินัยต่อ มีผู้ให้การหลายรายยืนยันว่า ได้เห็นพลทหารผู้ช่วยครู 
จับขาพลวิเชียรฯ คนละข้างลากไปกับพื้นปูนบริเวณที่รวมพล
หน้าหน่วยฝึกประมาณ ๒-๓ เมตร พลทหารวิเชียรฯ ได้ร้องด้วยความเจ็บปวด
ต่อจากนั้นได้พาไปปรับปรุงวินัยที่เดิม ซึ่งขณะนั้นร้อยตรีอีกนาย
ได้เข้ามาพบเห็นพลทหารผู้ช่วยครูได้รุมกันใช้เท้าเตะกระทืบที่ขา
และลำตัวของพลทหารวิเชียรฯ ซึ่งขณะนั้นร้อยตรีที่ถูกกล่าวหา
ได้กำกับอยู่ โดยสั่งให้ตัดกำลังขาอย่าไปทำอะไรส่วนบน
ต่อจากนั้นได้ใช้เกลือทาบริเวณแผลและใช้เท้าเหยียบขึ้นไปที่หน้าอก 
หลังจากใช้เวลาซ่อมประมาณ ๒ ชั่วโมง ได้นำตัวพลทหารวิเชียรฯ 
ไปอาบน้ำและพาไปที่ห้องพยาบาล เพื่อทายารอยแผลขีดข่วน
และให้นอนพักบนเตียงผ้าใบในห้องพยาบาล
ขณะนั้นมีครูทหารใหม่และผู้ช่วยครูหลายนาย ซึ่งที่ห้องพยาบาลนั้น
จ่าสิบเอกให้การว่า เห็นพลวิเชียรวิเชียรฯ ถูก สิบเอก ๓ นาย 
และสิบโท ๒ นายสลับกันรุมเตะด้วยหัวรองเท้าคอมแบค 
โดยมีร้อยตรีผู้ช่วยผู้ฝึก นั่งอยู่ที่เตียงพยาบาล
ครูฝึกทหารใหม่รวม ๑๐ นาย ลงโทษพลทหารเกณฑ์ป.โท จนตาย! เผยทุกเหตุการณ์ ยิ่งกว่าหนังซาดิสซ์
เวลาประมาณ ๑๗.๔๕ น. สิบเอกได้เรียกรวมพลทั้งหมด
เพื่อไปรับประทานอาหารเย็น โดยสิบเอกอีกนายได้เรียกทหารใหม่
ประมาณ ๕-๖ นาย ให้แบกพลทหารวิเชียรฯจากห้องพยาบาลไปยังโรงเลี้ยง 
โดยใช้ผ้าขาวห่อตัวเหลือแต่ใบหน้าพร้อมมัดตราสังข์
ในลักษณะเหมือนศพ พร้อมตั้งขบวนแห่และพูดไว้อาลัย
เหมือนกับการแห่ศพ และที่โรงเลี้ยงมีพยานยืนยันว่า
เห็นพลทหารวิเชียรฯ ถูกสั่งให้นั่งกินข้าวบนก้อนน้ำแข็งประมาณ ๑๐ นาที 
โดยให้นั่งท่าขัดสมาธิ ก้นสัมผัสผิวน้ำแข็งประมาณ ๑ ใน ๓
และสวมกางเกงในตัวเดียว และร้อยโทผู้ฝึกได้เดินมาที่พลทหารวิเชียรฯ 
ร้อยตรีผู้ช่วยครูฝึกได้บอกให้เอาน้ำแข็งประคบ 
เพื่อบาดแผลจะได้หายเร็วขึ้นและได้ให้รับประทานกระเทียม
ประมาณ ๓–๔ กลีบ ต่อมาสิบเอกได้นำกำลังพลชุดเดิม
แบกพลทหารวิเชียรฯ กลับมาวางด้านหน้าหน่วยฝึกและมีก้อนน้ำแข็ง
วางทับบนหน้าอก ที่หน้าหน่วยฝึก
เวลาประมาณ ๑๘.๔๕ น. สิบเอกได้สั่งให้พลทหารวิเชียรฯ หมอบ-ลุก 
เมื่อเห็นว่า ทำช้าไม่เป็นที่พอใจจึงได้ไม้ไผ่ขนาดเท่านิ้วชี้ตีที่บริเวณลำตัว 
แผ่นหลัง ก้น ขาจนถึงปลายเท้า และใช้เท้าเตะบริเวณชายโครง หน้าอก
และกระทืบไปที่ท้ายทอยเป็นเหตุให้คางกระทบกับพื้น
เป็นแผลแตกขนาดปลายนิ้วก้อย ใช้เท้าเตะไปที่บริเวณใบหน้า
เป็นเหตุให้มีเลือดออกจากปากแล้วพลทหารวิเชียรฯ 
ได้ก้มลงกราบพร้อมร้องบอกว่า "ผมเจ็บและจะไม่ทำอีกแล้ว" 
แต่สิบเอกก็ยังไม่หยุดกระทำ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดสลับกับการ
ถูกเตะและกระทืบดังมากจนทำให้ร้อยโทผู้ฝึกได้ชะโงกมาจากชั้นบน
ของอาคารหน่วยฝึก พร้อมสั่งให้ร้อยตรีผู้ช่วยผู้ฝึกอย่าทำให้แรงเกินไปนัก 
สิบเอกจึงได้ย้ายสถานที่ซ่อมไปด้านข้างของแถว 
ยังคงใช้ไม้ตีสลับกับการเตะเหมือนเดิมจนกระทั่งร้อยตรีอีกนาย
ได้เข้ามาแย่งไม้ในมือสิบเอกทิ้งอีกครั้ง สิบเอกได้พูดว่า
"ไม่มีไม้ใช้มือใช้เท้าแทนก็ได้" และได้ประกาศท้าทายให้ไปฟ้อง 
ผบ.ทบ.ต่อหน้ากำลังทหารใหม่ประมาน ๒๐๐ นาย
จนเวลา ๒๓.๐๐ น. ร้อยตรีได้พาพลทหารวิเชียรฯ ไปคุยต่อจนถึง
เวลา ๐๑.๐๐ น.เศษ ได้สั่งให้พลทหารวิเชียรฯ ขึ้นโรงนอน 
ต่อมาวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๔ มีพยานหลายคนเห็น พลทหารวิเชียรฯ 
นอนพักอยู่ในห้องพยาบาลบริเวณร่างกายและขามีรอยช้ำบวมหลายแห่ง
ใต้คางมีแผลลึกมีน้ำเหลืองไหลย้อยรอบปากปรากฏคราบเลือด
พยานบางคนได้ถามอาการเจ็บป่วยได้รับคำตอบว่า เจ็บปวดไปทั่วร่างกาย 
ได้ร้องขอให้นำตัวไปส่งโรงพยาบาลเนื่องจากทนความเจ็บปวดไม่ไหว
ถึงขั้นมีการสั่งเสียกับเพื่อนพลทหารด้วยกันว่า หากเสียชีวิตลง
ให้ช่วยแจ้งกับมารดาด้วย แต่ไม่มีผู้ใดสนใจและดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
กระทั่งวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ จึงได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลเจาะไอร้อง 
ทางโรงพยาบาลเห็นพลทหารวิเชียรฯ มีอาการหนักเกินขีดความสามารถ
ของแพทย์ที่จะรักษาเยียวยาได้ จึงส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาส
ราชนครินทร์ต่อทันที และหน่วยได้สั่งให้ร้อยตรีที่ไม่ได้ร่วมกระทำ
ไปดูอาการของพลทหารวิเชียรฯ
ในวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ เห็นพลทหารวิเชียรฯ 
อยู่ในห้องไอซียูพร้อมญาติ บริเวณทั่วทั้งลำตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
มีแต่บาดแผลและรอยช้ำบวม สอบถามแพทย์ได้รับคำตอบว่า 
ชีพจรต่ำมาก การตอบสนองของร่างกายไม่มี อาการอยู่ในขั้นโคม่า
ท้ายสุดเมื่อวันที่ ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๒๓.๐๕ น.
ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส 
พลทหารวิเชียร เผือกสม ต้องจบชีวิตด้วยวัยเพียง ๒๖ ปีเท่านั้น 
โดยที่สาเหตุการตายมาจากไตวายเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อ
ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากการถูกรุมซ้อมทำรายร่างกาย
โดยฝีมือของครูฝึกในหน่วยฝึกของค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 
ในสังกัด ร.๑๕๑ พัน.๓ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก 

Share this

Related Posts

Previous
Next Post »